ดวงอาทิตย์
(Sun)
ดวงอาทิตย์
(Sun)
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่อยู่ตรงใจกลางของระบบสุริยะ
ดวงอาทิตย์ให้แสงสว่าง ความร้อน และพลังงานรูปแบบอื่นแก่โลก ดวงอาทิตย์อยู่ในสถานะที่เรียกว่า
พลาสมา พลาสมาคือ สถานะที่ 4 ของสสาร คือ แก๊สที่อิเล็กตรอนไม่ได้ยึดติดกับนิวเคลียส
ดังนั้น พลาสมาจึงมีความเป็นกลางทางประจุไฟฟ้า รอบ ๆ
ดวงอาอาทิตย์ประกอบด้วยดาวเคราะห์ต่าง ๆ กับดาวบริวารของมัน
ดาวเคราะห์น้อยอีกนับแสน และดาวหางอีกเป็นล้านล้าน ทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า
ระบบสุริยะ
ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากโลกประมาณ 150 ล้านกิโลเมตร หรือ 1 AU (Astronomical Unit) มีมวลประมาณ
1.9x1030 กิโลกรัม มีรัศมี (วัดบริเวณเส้นศูนย์สูตร) ประมาณ 695,500
กิโลเมตร ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยไฮโดรเจน 75% ต่อมวล
ฮีเลียม 25% ต่อมวล และธาตุหนักอื่น ๆ อีกน้อยกว่า 1%
ต่อมวล
ผิวของดวงอาทิตย์ที่เรามองเห็นได้มีอุณหภูมิประมาณ 5,500 องศาเซลเซียส นักดาราศาสตร์วัดอุณหภูมิผิวดาวฤกษ์ในหน่วยของเคลวิน ซึ่ง 1
เคลวิน เท่ากับ 1 องศาเซลเซียส เท่ากับ
1.8 องศาฟาเรนไฮต์
แต่จุดเริ่มต้นของเคลวินและองศาเซลเซียสแตกต่างกัน โดยเคลวินเริ่มที่ 0 เคลวิน แต่องศาเซลเซียสเริ่มที่ -273.15 องศาเซลเซียส
(เท่ากับ -459.67 องศาฟาเรนไฮต์) ดังนั้น
อุณหภูมิที่ผิวดวงอาทิตย์จะมีค่าประมาณ 5,800 เคลวิน และอุณหภูมิที่แกนกลางของดวงอาทิตย์สูงถึงประมาณ
15 ล้านเคลวิน
พลังงานของดวงอาทิตย์ มาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน
ซึ่งเกิดที่แกนกลางของดวงอาทิตย์ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันคือการรวมกันของอะตอมของธาตุเบาได้อะตอมใหม่ที่มี
มวลน้อยกว่ามวลรวมของอะตอมเริ่มต้น และมวลที่หายไปนั้นถูกเปลี่ยนเป็นพลังงาน
ดวงอาทิตย์มีความเป็นแม่เหล็ก นักวิทยาศาสตร์อธิบายความเป็นแม่เหล็กของสารในรูปแบบของสนามแม่เหล็ก
ซึ่งบริเวณที่สนามแม่เหล็กมีผลจะรวมถึงอวกาศที่อยู่รอบ ๆ วัตถุแม่เหล็กนั้นด้วย สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะเข้มมากที่บริเวณเล็ก
ๆ บนผิวที่เราเรียบกว่าจุดมืด (sunspots) บนดวงอาทิตย์
บางครั้งจะมีการลุกจ้า (flares) และการปลดปล่อยก้อนมวลจากชั้นโคโรนา
(coronal mass ejection) จากจุดมืดนี้ด้วย
การลุกจ้า (flares) เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมากเหตุการณ์หนึ่งในระบบสุริยะ
และการปลดปล่อยก้อนมวลจากชั้นโคโรนา (coronal mass ejection) ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าการลุกจ้า การปลดปล่อยก้อนมวลครั้งหนึ่งอาจปล่อยมวลสารออกมามากถึง
20,000 ล้านตันสู่อวกาศ
ดวงอาทิตย์เกิดมาเมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีที่แล้ว และยังมีเชื้อเพลิงมากเพียงพอที่จะอยู่ต่อไปอีก 5,000
ล้านปี หลังจากนั้นมันจะกลายเป็นดาวยักษ์แดง (red giant) และในที่สุดเมื่อชั้นบรรยากาศของมันหมดไป
แกนกลางก็จะยุบตัวกลายเป็นดาวแคระขาว (white dwarf)
สรุปข้อมูลทางกายภาพของดวงอาทิตย์
รัศมี
|
695,990 กิโลเมตร
|
432,470 ไมล์
|
109 เท่าของรัศมีโลก
|
มวล
|
1.989 1030
กิโลกรัม
|
4.376 1030
ปอนด์
|
333,000 เท่าของมวลของโลก
|
พลังงานที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมาต่อวินาที
|
3.846 1033
erg/s
|
|
|
อุณหภูมิที่ผิวของดวงอาทิตย์
|
5770 เคลวิน
|
9,930 องศาฟาเรนไฮต์
|
|
ความหนาแน่นที่ผิว
|
2.07 x 10-7
กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
|
1.6 x 10-4
เท่าของความหนาแน่นของอากาศ
|
|
องค์ประกอบที่ผิว
|
มวล ไฮโดรเจน 70%
|
มวล ฮีเลียม 28%
|
มวล อื่น ๆ (คาร์บอน,ไนโตรเจน,ออกซิเจน, ...) 2%
|
อุณหภูมิที่ใจกลาง
|
15,600,000 เคลวิน
|
28,000,000 องศาฟาเรนไฮต์
|
|
ความหนาแน่นที่ใจกลาง
|
150 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร
|
8 ื เท่าของความหนาแน่นของทอง
|
|
องค์ประกอบที่ใจกลาง
|
มวล ไฮโดรเจน 35%
|
มวล ฮีเลียม 63%
|
มวล อื่น ๆ (คาร์บอน,ไนโตรเจน,ออกซิเจน, ...) 2%
|
อายุ
|
4.57 x 109
ปี
|
โครงสร้างของดวงอาทิตย์
เราสามารถแบ่งโครงสร้างของดวงอาทิตย์ออกได้เป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. โครงสร้างภายในดวงอาทิตย์
(solar interior) ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1.1 แกนกลาง
(core)
รูปแสดงโครงสร้างภายในของดวงอาทิตย์
(solar
interior)
2. ชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ แบ่งออกได้เป็น
3 ชั้น (layers) คือ
2.3 โคโรนา (corona)
โดยที่ระหว่างชั้นโครโมสเฟียร์และชั้นโคโรนาจะมีชั้นบาง
ๆ ที่เรียกว่า transition
regions อยู่ด้วย
รูปแสดงชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์
รูปแสดงส่วนต่าง
ๆ ของดวงอาทิตย์
ที่มา http://www.thaispaceweather.com/IHY/Sun/Sun.htm
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น